พ
จากสถานการณ์ภัยแล้งคุกคามในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ของทุกปี ส่งผลให้เกษตรกรที่ทำนาต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำนาอีกทั้งราคาข้าวยังตกต่ำ ทำให้เกษตรกรหลายรายต้องเลิกอาชีพทำนา หันมาเลี้ยงสัตว์แทนการทำนาเพื่อเป็นอาชีพทดแทนเนื่องจากทำนาในแต่ละรอบปีรายได้จากการขายข้าว กลับไม่เพียงพอต่อค่าปุ๋ยค่ายาชาวนาวันนี้จึงหันมายึดอาชีพอื่นแทนการทำนา กลุ่มเกษตรกรบ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก กว่า 8 รายจำต้องทิ้งผืนนา เพื่อหันมาเลี้ยงสัตว์แทน ทั้งเลี้ยงวัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ และที่โดดเด่น กว่าใครคือการเลี้ยงแพะ ขายลูกให้กับพ่อค้านำไปขุนต่อเพื่อชำแระขายเป็นเนื้อแพะส่งออกให้กับผู้นิยมรับประทาน จนทำให้วันนี้มีเกษตรกรหันมาเลี้ยงแพะเป็นอาชีพหลักแล้วกว่า 10 รายในพื้นที่
นายเยี่ยม ตาเห็น อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 42 ม.4 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่มีอาชีพปลูกข้าวเป็นชาวนามานานกว่า 40 ปี และต้องยอมทิ้งผืนนาเพื่อความอยู่รอดหันมาเปลี่ยนวิถีชีวิต จากชาวนามาเป็นเจ้าของฟาร์มแพะโดยปัจจุบันหันมาเลี้ยงแพะ สายพันธ์บอ กับลูกผสม เริ่มต้นจากการสร้างคอกโรงเรือนให้แพะ และหาพ่อพันธ์แม่พันธ์ ที่เลี้ยงง่ายโตเร็วเข้ามาเลี้ยงเพียง10 กว่าตัว โดยมีพ่อพันธ์และแม่พันธ์เพียง 5 คู่ โดยเริ่มลงทุนครั้งแรกในการเปลี่ยนอาชีพเป็นครั้งแรกจำนวน 150000 บาท ในการสร้างโรงเรือนและซื้อเหมาคอกพ่อพันธ์แม่พันธ์แพะมาจากฟาร์มอื่นรวมทั้งหมด 20 ตัว ถึงปัจจุบันใช้เวลา 7 เดือน ได้ลูกมาเพิ่มรวมทั้งหมด ปัจจุบันมีแพะอยู่ในฟาร์มถึง 50 ตัว ไม่รวมที่ขายลูกแพะออกไปบ้างแล้วส่วนหนึ่ง โดยแพะที่เลี้ยงอยู่ปัจจุบันจะให้อาหาร 2 เวลา ช่วงสายของทุกวันจะให้แพะได้กินหญ้าหวานที่ปลูกไว้เองเพื่อลดต้นทุน และใบกฐิน ในช่วงเที่ยงก็จะปล่อยออกหากินตามธรรมชาติ ช่วงเย็นก็จะให้อาหารอีกรอบ เป็นรำอ่อนผสมหยวกกล้วย ซึ่งอาหารเหล่านี้ถือว่ามีโภชนาการสูง จึงทำให้แพะแข็งแรงปลอดโรคและมีลูกดก ซึ่งแพะจะตั้งท้องเพียงเดือนกว่าๆ ก็จะทยอยออกลูกครั้งละ 2-3 ตัว
โดยเมื่อออกลูกมาก็จะทำการคัดดูจากรูปทรงและสี โดยจะทยอยขายลูกแพะเพศผู้อายุตั้งแต่ 1 เดือน ขึ้นไปในกิโลละ 120 บาท ส่วนเพศเมียก็จะคัดลักษณะของแพะที่มีรูปทรงดีสีสวยไว้เป็นแม่พันธ์ต่อ โดยแพะตั้งแต่อายุ 1 เดือนไปแล้วนั้น ก็จะมีน้ำหนักตัวมาก จำหน่ายออกก็จะได้ราคาตัวละประมาณ 1000-1500 บาท ต่อตัว โดยจะมีพ่อค้าเดินทางมาในทุกๆ 2 เดือน เพื่อตะเวนซื้อลูกแพะนำไปเลี้ยงขุนต่อเพื่อรอชำแระขายเนื้อโดยเฉลี่ยการขายลูกแพะในแต่ละรอบ ก็จะมีรายได้ต่อรอบประมาณ 10000 -200000 บาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ดี และมูลแพะยังสามารถขายได้โดยมีราคากระสอบละ 30 บาท จะมีผู้มารับซื้อถึงหน้าฟาร์มในทุกๆเดือน ซึ่งก็ถือว่าอาชีพเลี้ยงแพะนั้น
สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างเป็นกรอบเป็นกำ และยังถือเป็นอาชีพที่ยั่งยืนไม่ยุ่งยาก จนปัจจุบันมีผู้หันมานิยมเลี้ยงแพะกันอย่างแพร่หลายในชุมชนจนทำให้เกษตรกรมีรายได้และมั่นคงและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งหากใครสนใจที่อยากจะซื้อลูกแพะหรืออยากขอคำปรึกษาวิธีการเลี้ยงและดูแลแพะ ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ ฟาร์มแพะนายเยี่ยม เลขที่ 42 ม.4 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก หรือโทรศัพท์ สอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 080-1164140 ในช่วงเวลากลางวัน.